Skip to main content

(2) Fresh markets in Vienna! สำรวจตลาดสดในเวียนนา!

ครั้งนี้ เราจะพาเที่ยวตลาดสดในเวียนนา แต่ขอออกตัวก่อนนะว่า ยังไปไม่กี่ที่เลย เนื่องจากช่วงนี้เป็นหน้าหนาว ตลาดสดจึงไม่ค่อยครึกครื้นเท่าไหร่นัก จุดเด่นของตลาดสดที่นี่ (ความเห็นจากคนใกล้ตัว) คือ ราคาถูกกว่าในซุปเปอร์มาเก็ต แต่คุณภาพไม่ต่างกัน และบางอย่างมีความสดใหม่มากกว่าด้วยซ้ำถ้าไปจับจ่ายซื้อของถูกเวลา ซึ่งช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดคือ ช่วงเช้าวันเสาร์ เนื่องจากเกษตรกรจะนำสินค้ามาส่งขายในตลาดในวันดังกล่าว และแน่นอนว่าวันเสาร์เป็นวันที่ตลาดคึกคักที่สุด ความน่าสนใจของตลาดสดในเวียนนาในความเห็นของเราคือ ความหลากหลายของสินค้าตามเชื้อชาติ เนื่องจากเวียนนาเป็นเมืองหลวงที่มีความหลากหลายของเชื้อชาติ อาทิ ตุรกี แอฟริกัน จีน เวียดนาม ญี่ปุ่น และไทย เป็นต้น ชาวตุรกีตั้งรกรากที่นี่มานานนับร้อยปี (ซึ่งเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ยุโรป ขอเวลารวบรวมข้อมูลก่อนนะแล้วค่อยเอามาเล่าให้ฟัง) ส่วนชาวแอฟริกันเข้ามาทำงานและตั้งรกรากในยุกต์บุกเบิกด้านอุตสาหกรรมในยุโรปซึ่งช่วงนั้นออสเตรียมีแรงงานน้อยจึงต้องการแรงงานต่างชาติจำนวนมาก ในส่วนของชาวจีน เวียนดนาม ญี่ปุ่น และไทย นั้น เราเดาจากจำนวนร้านอาหารเอเชียที่มีอยู่ทั่วไปในเวียนนา เนื่องจากอาหารเอเชียเป็นที่นิยมของชาวยุโรปมาเป็นเวลานาน ด้วยอิทธิพลเหล่านี้ ทำให้ตลาดสดมีสินค้าที่หลากหลาย ตามมาดูกันว่าบรรยากาศตลาดสดที่นี่เป็นยังไง

ตลาดสดที่เป็นที่นิยมในเวียนนามีด้วยกัน 17 แห่ง (เท่าที่หาข้อมูลเจอนะ) เราขอพาเที่ยว 3 แห่งก็แล้วกันที่แรกก็คือ Naschmarkt นอกจากที่นี่จะเป็นตลาดสดแล้ว ยังเป็นสถานที่แนะนำในหนังสือท่องเที่ยวเวียนนาอีกด้วย ก็คงเพราะมีสินค้าจากตุรกี แอฟริกา และเอเชีย อีกทั้งมีร้านนั่งกินดื่มเบียร์ ไวน์ ได้อย่างสบายใจ การเดินทางก็สะดวก หาไม่ยาก และเป็นแหล่งค้นหาวัตถุดิบหายากสำหรับคนไทยอย่างเรา ก็เพราะที่นี่เราสามารถซื้อใบมะกรูดแห้ง หม้อหุงข้าว ครกพร้อมสากกะเบือ หม้อสุกี้ เครื่องเทศ และเครื่องปรุงต่างๆ ที่มาจากประเทศไทย และประเทศอื่นๆ ในเอเชีย แม้ว่าขนาดร้านค้าและตลาดจะไม่ใหญ่มากเหมือนเมืองไทย แต่มันมีคุณค่าทางจิตใจ และปากท้อง (เจอใบมะกรูดแห้ง เรานี่แทบกรี๊ด ยิ้มปากฉีก 555
น่าตาคุ้นๆ มั๊ย อิอิ


ผัก ผลไม้สด
เครื่องเทศทั้งหลาย ของบ้านเราก็มีนะ
สารพัดชีส เนย ไส้กรอก และอีกมากมาย


เนื้อสด ที่นี่มีครบนะ หมู ปลา กุ่ง เนื้อวัว ฯลฯ 
มุมเครื่องดื่ม มีหลากหลายให้เลือก จะซื้อกลับ หรือนั่งดื่มรับลมหนาวนอกร้าน ในร้านก็มีที่ให้นั่งนะ
แผนที่ Naschmarkt

ตลาดที่สองที่จะแนะนำก็คือ Brunnenmarkt หรือ Yppen markt ที่นี่จะออกแนวตลาดตุรกีและแอฟริกัน ดังนั้น จะไม่แปลกใจเลยที่จะเห็นคนตุรกีและคนแอฟริกันเยอะหน่อย ของเอเชียไม่ต้องมาหาแถวนี้นะ ไม่ค่อยมี แต่ถ้าจะซื้อเนื้อหมูก็ยังพอหาซื้อได้ ในช่วงหน้าร้อนจะเป็นที่นิยมมากเนื่องจากตลาดใช้พื้นที่ในซอยตามความยาวของถนนเป็นพื้นที่ขายของ นึกภาพตลาดคนเดินในเมืองไทย แต่ของที่ขายเป็นของสด ของใช้ในครัว นอกจากนี้ ยังมีซุปเปอร์มาเก็ตย่อยๆ ให้เข้าไปเลือกซื้อได้ เราลองเข้าไปดู ไม่มีอะไรที่เราคุ้นเคย คือไม่รู้ว่าจะเอามาทำกินยังไง ได้แต่เข้าไปสำรวจดูนิดๆ หน่อยๆ แล้วก็เดินออกมา อ่อ สิ่งนึงที่อยากเตือนคือ อย่างตื่นตูมถ้าพี่แอฟริกันจะพยายามพูดอะไรกับคนต่างชาติ ซึ่งตอนแรกเรากลัว 555 แต่พอตั้งสติได้ ก็รู้ว่าพี่แกเรียกลูกค้าให้เข้าไปซื้อของแค่นั้นเอง (ฟังไม่รู้เรื่องแล้ว ยังจะคิดเยอะอีก ดำเหมือนกัน ไม่น่าจะกลัวกันเอง กร๊ากก) หลังจากสติกลับมาก็เดินซื้อผักสดไว้ทำกับข้าวตอนเย็น พ่อค้าใจดี แม้จะพูดอังกฤษไม่ได้ แต่ก็ยินดีให้เราถ่ายรูป ขั้นตอนการซื้อก็ง่ายๆ อยากได้อะไรก็หยิบแล้วก็ยื่นให้พ่อค้า เค้าก็จะชั่งกิโลให้แล้วก็บอกว่ากี่บาท ปัญหามีนิดเดียวคือ ท่อง 1 ถึง 20 เป็นภาษาเยอรมันมาด้วยก็ดี จะได้ไม่งงมากนัก เผื่อเจอพ่อค้าที่พูดอังกฤษไม่ได้เหมือนเราในวันนั้น
สองพ่อค้า น่ารักมาก
เดินวนอยู่สองรอบประมาณว่าเริ่มหลง (อาการปกติของเราเอง) แต่ก็เดินต่อไปดูโน่นนี่ (กะว่าเดินครบแล้วค่อยถามทางกลับทีเดียวเลย 555) เจอร้านเคบับ เรายังไม่เคยลองกินก็เลยซื้อกินซะหน่อย ทดสอบภาษาเยอรมันที่มีอยู่น้อยนิด สุดท้ายก็ได้กิน กะว่าจะกลับละ แต่สะดุดตาร้านรถขายบะหมี่ผัด เข้าไปดูใกล้ๆ มีป่อเปี๊ยะทอด เบียสิงค์ ขายด้วย หน้าตาพ่อค้าก็เหมือนคนไทย เลยสั่งกลับบ้าน แต่พี่แกไม่ใช่คนไทย อยากถามต่อว่าพี่มาจากไหน พี่แกแอบเขิน ไม่รู้ว่าแกเขินอะไร (อ่อ เค้าถามเราว่าเป็นคนไทยเหรอ เราบอกว่าใช่ คงเขินตั้งแต่ตอนนั้น) แล้วก็ไปรับออเดอร์ลูกค้าคนอื่นต่อ สรุปเลยไม่ได้ถาม ส่วนพี่ฝรั่ง (ลูกค้า) คงเคยมาเที่ยวไทย ทักทายเราว่า "สวัสดีครับ สบายดีไหมครับ"
ร้านเคบับ
พี่แกเหมือนคนไทยมั๊ยล่ะ เราว่าพี่แกเป็นคนเวียดนาม


บรรยากาศในภาพรวมของตลาด


สิ่งที่ประทับใจมากที่สุดของตลาดแห่งนี้ ไม่ใช่สินค้าที่นำมาขาย แต่เป็นโครงการหนังสือมือสองที่เป็นการแบ่งปันกันแบบง่ายๆ ใครมีหนังสือไม่ใช้แล้วก็แค่เอามาวางที่จุดบริการซึ่งอยู่ใจกลางตลาด บริเวณมุมถนน สังเกตเห็นได้ง่าย และผู้คนเดินพลุกพล่าน ไม่มีอะไรยุ่งยากเลยในการใช้บริการ ใครสนใจหนังสือเล่มไหนก็แค่หยิบไป ไม่มีระบบการยืม วิธีการคืนหนังสือ เป็นการให้จริงๆ มันแสดงถึงการมีวินัยและรู้จักแบ่งปัน กติกาแทบไม่มีความหมายเลยในกรณีนี้ 
แผนที่ Brunnenmarkt
ตลาดแห่งสุดท้ายที่จะแนะนำเป็นตลาดตุรกีชื่อ Hannovermarkt ที่นี่ไม่มีเนื้อหมูขายนะ ของเอเชียก็ไม่มีเช่นกัน ร้านขายเนื้อสดมีหลายร้านให้เลือก ราคาไม่แพง ผักและผลไม้ก็เช่นกัน ซื้อแช่เก็บไว้ทำกินได้ตลอดสัปดาห์ (ทดลองมาแล้ว ของเค้าสดจริงๆ) ที่สำคัญต้องมาเช้าวันเสาร์นะ แม้ตลาดที่นี่จะไม่ใหญ่มาก แต่สินค้ามีคุณภาพ เราไม่ได้ถ่ายภาพตลาดนี้มากนักเพราะมัวแต่ซื้อของ 555 ใครมีโอกาสมาเที่ยวเวียนนาและใช้เวลาที่นี่หลายวัน ตลาดสดเป็นจุดที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากสัมผัสการใช้ชีวิตของคนที่นี่ เพราะวัฒนธรรมอาหารสามารถเชื่อมโยงถึงประวัติศาสตร์ความเป็นมาของแต่ละพื้นที่ได้ไม่น้อย



                          

                          
แผนที่ Hannovermarkt

เพิ่มเติมข้อมูลให้อีกนิดนึงเผื่อใครสนใจ ตลาดสดที่เป็นที่นิยมในเวียนนา ได้แก่ 
(https://www.wien.gv.at/freizeit/einkaufen/maerkte/lebensmittel/index.html
Brunnenmarkt, Floridsdorfer Markt, Gersthofer Markt, Hannovermarkt, Johann-Nepomuk-Vogl Markt, Karmelitermarkt, Kutschkermarkt, Meidlinger Markt, Meiselmarkt, Naschmarkt, Nußdorfer Markt, Rochusmarkt, Schwendermarkt, Sonnbergmarkt, Viktor-Adler-Markt, Volkertmarkt และ Vorgartenmarkt อย่าเพิ่งงงกับชื่อนะว่ามันอ่านว่ายังไง มันเป็นภาษาเยอรมัน ใครสนใจรายละเอียดของแต่ละตลาดก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดตามลิ้งค์ที่แปะไว้ให้นะ อาจจะขอให้อากูเกิ้ลช่วยแปลให้เป็นภาษาไทยก็จะช่วยได้เยอะเลย ^_^
แผนที่ตลาดสดและตลาดสุดสัปดาห์
https://www.wien.gv.at/stadtplan/grafik.aspx?lang=de-AT&bookmark=zQPgxHv840RiwApH2byZRu5RphlRnHnkur2pV30Mpr4C



Comments

Popular posts from this blog

(3) Talad Thai ตลาดไทยในเวียนนา

ในที่สุดก็มีเวลามานั่งเขียนอีกครั้ง หลังจากช็อคกับคอร์สเรียนภาษาเยอรมันหลักสูตรเร่งรัดของที่นี่ (ครูสอนเป็นภาษาเยอรมัน หนังสือเรียนเป็นภาษาเยอรมัน แต่ถ้าสื่อสารกันไม่ได้แล้วครูจะอนุญาตให้พูดภาษาอังกฤษได้) วันนี้เป็นวันสุดท้ายของคอร์สแรก และเริ่มเรียนคอร์สต่อไปวันจันทร์ คราวนี้ดีหน่อยเราจองเวลาเรียนใหม่เป็นช่วงบ่ายสามถึงหกโมงเย็น ไม่ต้องเรียนรอบค่ำแล้ว เย้! แต่สิ่งที่เศร้าคือ เพื่อนที่เรียนด้วยกันมาต้องแยกย้ายกันไปทำภารกิจของตัวเองก่อน แล้วค่อยกลับมาเรียนใหม่ ส่วนเรามีเวลาไม่มากนักเลยเริ่มเรียนก่อนคนอื่น แต่ยังไงซะเราก็ยังติดต่อกันอยู่ และแน่นอนว่าเราจะได้เจอกันอีก อยากรู้มั๊ยว่าทำไมพวกเราถึงมาเรียนภาษาเยอรมันที่นี่! หลายคนคงรู้คำตอบบ้างแล้ว มันเป็นละครชีวิต และมีหลากหลายเรื่องราว เมื่อคืนเราได้คำตอบที่ชัดเจนหลังจากได้โอกาสออกไปดื่มหลังเลิกเรียนกับเพื่อนๆ ในชั้นเรียน (น่าเสียดายที่เพื่อนบางคนถอนใจเลิกเริียนกลางคัน ทำให้วันนี้ขาดสมาชิกไป 2 คน เหลือแค่ 7 คน; จีน 1ญ, ไทย 1ญ, ออสเตรเลีย 1ช, อิตาลี 1ญ 2ช, และแอลเบเนีย 1ช) ให้กับตัวเองในคำถามนั้น "พวกเรามาที่นี่เพื่อหาโอกาสในการทำงาน...

(10) สินค้าอะไรที่หาซื้อง่ายและมีตู้อัตโนมัติบริการเกือบทุกซอกซอยในเวียนนา เฉลย "บุหรี่" นั่นเอง

หลังจากห่างหายกันไปนานแรมปี มาเริ่มต้นบทความแรกของปี 2018 ด้วยบุหรี่กันเถอะ ทำไมต้องเป็นหัวข้อนี้ ก็เพราะตั้งแต่มาที่นี่ครั้งแรก สิ่งที่เหมือนเดิมคือ รสนิยมการสูบบุรี่ของชาวออสเตรียในเวียนนาที่มากี่ครั้งก็คุ้นเคยกับสิ่งนี้ จึงอยากนำมาเล่า จะได้ไม่ตกใจกันเวลามาเที่ยวที่นี่ แต่ก็อาจจะถูกจริตกับสิงห์อมควันบ้านเราก็เป็นได้ (ปล. ผู้เขียนไม่มีเจตนาที่จะส่งเสริม หรือสนับสนุนการสูบบุหรี่แต่อย่างใด) ความประทับใจเกี่ยวกับรสนิยมการสูบบุหรี่ของหนุ่มสาวออสเตรียนั้นเกิดขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกในการเดินทางมาเวียนนา เพราะคนใกล้ตัว (สามีและเพื่อนออสเตรีย) เกือบ 99% สูบบุหรี่ เพราะฉะนั้น เมื่ออยู่ที่นี่ไปซักพัก สิ่งเหล่านี้ก็จะเป็นสิ่งที่คุ้นตาและพบได้ทั่วไป แม้กระทั่งในร้านอาหาร ทั้งนี้ การสูบบุหรี่ ดื่มกาแฟ หรือดื่มไวน์ เบียร์ ล้วนเป็นวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวยุโรป ที่ตกทอดกันมาจนถึงปัจจุบันและแผ่ขยายไปในหลายประเทศ ดังนั้น ใครที่ไม่ชอบกลิ่นบุรี่ก็ต้องสำรวจพื้นที่กันก่อนว่า ร้านอาหาร หรือคาเฟ่ นั้นๆ มีจัดพื้นที่ห้ามสูบบุหรี่หรือไม่ ขอเน้นไปที่ร้านท้องถิ่นนะ เพราะถ้าเป็นร้านที่ให้บริการนักท่องเที่ยว ส่...