Skip to main content

(1) I am here in Vienna, Austria! ฉันอยู่ที่นี่ เวียนนา ออสเตรีย ^^

สวัสดี My traveller diary ฉันเกือบลืมเธอไปแล้ว เราเปิดบล๊อกนี้ไว้เมื่อปี 2014 อืม ก็แค่ปีกว่าๆ เอง (มันก็นานนะเออที่ไม่ได้ทำอะไรกับพื้นที่นี้เลย) ถามว่าตอนนั้นคิดยังไงถึงเปิดบล็อกนี้ขึ้นมา ซึ่งเราเองในตอนนั้นก็ยังสับสนอย่างรุนแรง ไม่ชัดเจนซักอย่างว่าจะทำอะไร แค่อยากเขียน อยากเล่าประสบการณ์ของตัวเองให้คนอื่นที่น่าจะมีแนวทางเดียวกันได้รับทราบและเรียนรู้ไปด้วยกัน ไม่ว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องเก่าแก่ซักแค่ไหนก็ตาม จะมีประโยชน์ หรือไม่มีประโยชน์ในสายตาคนอื่น แต่มันมีคุณค่าแก่การจดจำของเรา และอยากเก็บมันไว้เป็นตัวหนังสือ เป็นภาพถ่าย หรืออะไรก็ช่างเถอะ นั่นคือสิ่งสำคัญสำหรับเรา สำหรับการให้ความหมายของ My traveller diary นั้น จริงๆ แล้วคือการเดินทางของเวลาผ่านตัวละครชีวิตในแต่ละวัน มันไม่ได้หมายความถึงการเดินทางท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว คนเราเกิดมามีชีวิตเดียว บางคนมีพื้นฐานครอบครัวที่เพียบพร้อมตั้งแต่เกิด บางคนต้องดิ้นรนกันตั้งแต่เด็กเพื่อเอาชีวิตรอด แต่ทุกคนสามารถเลือกใช้ชีวิตของตัวเองได้ ไม่ว่าจะมากมี หรือจนซักเพียงไหน การเติบโตเกิดขึ้นในทุกขณะหายใจเข้าออก เติบโตผ่านร่างกาย ผ่านความคิด จนถึงจุดหนึ่งร่างกายเริ่มหยุดเติบโตและถูกแทนที่ด้วยการสึกหรอตามอายุขัย แต่ใช่ว่าจิตใจจะยอมแพ้ตามกาลเวลา หลายคนยังคงเป็นหนุ่มสาวในร่างชรา การเรียนรู้เพื่ออยู่กับชีวิตนี้มันมีสีสันมากเกินกว่าที่จะกักเก็บความทุกข์ ความหดหู่ ทุกอย่างมีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ทุกข์ กับ สุข ก็อยู่กับเราไม่นานเช่นกัน คำสอนของพระพุทธองค์ช่วยให้เราสงบและมีสติได้ในทุกเหตุการณ์ของชีวิต (เกริ่นยาวเกินไปซะแล้ว) ....

วันนี้ 12 กพ. 2016 เป็นฤกษ์ดีของการปัดฝุ่นไดอะรี่เล่มนี้ซะที ^^
พรุ่งนี้ก็จะครบ 3 สัปดาห์ของการมาใช้ชีวิตหลังแต่งงานที่เวียนนากับสามี (แอบอาย ขำตัวเองนิดหน่อย ในที่สุดเราก็มีสามี เพราะคิดมาตลอดว่าเราน่าจะเหมาะกับการอยู่คนเดียว) ครั้งนี้เป็นการมาเยือนครั้งที่ 3 ของเรา รอบนี้มานานหน่อย ประมาณ 3 เดือน เพื่อจดทะเบียนและเรียนภาษาเยอรมัน เมื่อวานไปลงทะเบียนเรียนภาษาเยอรมัน ได้คอร์สเรียนแบบเร่งรัดมากเรียนจันทร์ถึงศุกร์ วันละ 3 ชั่วโมง และเรียนหกโมงเย็นถึงสามทุ่ม ซึ่งมันเป็นช่วงเวลาที่เราไม่ชอบเลย เพราะตอนนี้ยังเป็นหน้าหนาว ค่ำเร็ว และหนาวมากตอนค่ำๆ แต่ก็เลือกไม่ได้เพราะถ้าเราไม่เรียนคอร์สนี้ก็ต้องรอเริ่มเดือนหน้าเลย ซึ่งเราไม่มีเวลาแล้ว รอบนี้อยากเรียน 2 เดือน ก็เลยต้องยอมรับชะตากรรม (ซ้อมผิวแห้งแตกมาหลายสัปดาห์แล้วจะกลัวอะไร ตอนนี้อาการเริ่มดีขึ้น) เออ เราเริ่มเรียนวันที่ 16 กพ. ไว้เริ่มเรียนแล้วจะมาเล่าให้ฟังว่าเป็นยังไง 

ตอนนี้ขอย้อนกลับไปช่วงสัปดาห์ที่ 1 - 3 ของการใช้ชีวิตที่เวียนนาก่อนนะ

อยากบอกว่า การมาครั้งนี้แตกต่างจากสองครั้งแรกที่เป็นการมาเที่ยวและทำความรู้จักกับเพื่อนและครอบครัวแฟน ซึ่งรอบนั้นเรายังอ่านภาษาเยอรมันไม่ออก ฟังไม่เข้าใจเลย ทุกคนที่นี่เลยพร้อมให้ความช่วยเหลือในการนำเที่ยว เพื่อไม่ให้เรากังวลมากนักในการออกไปข้างนอก ส่วนรอบนี้นะมันเป็นชีวิตจริง ทุกคนยุ่งกับงาน ส่วนเราเรียนภาษาเยอรมันจากเมืองไทยมาบ้างแล้ว อ่านภาษาเยอรมันออก ฟังพอเข้าใจ พูดได้นะ แต่ไม่มีใครเข้าใจ (ยังพูดไม่ได้นั่นเอง กะจะโม้ซักหน่อย) อันที่จริงเราซื้อหนังสือไว้เยอะ แต่รอบนี้เอามาได้ไม่กี่เล่ม กลัวน้ำหนักเกิน ไว้รอบหน้าว่ากันไหม่ ดังนั้น เราเลยจำเป็นต้องหาซื้อหนังสือนำเที่ยวเวียนนา ซึ่งแน่นอนว่าเป็นภาษาเยอรมัน แผนที่ ทุกๆ อย่างในนั้น ล้วนเป็นภาษาเยอรมัน ตอนนี้เริ่มเข้าใจแล้วใช่มั๊ยว่าอย่างน้อยการมาเที่ยวด้วยตัวเอง หรือการใช้ชีวิตที่นี่ ภาษาเยอรมันเป็นสิ่งสำคัญมาก แต่อย่าตกใจเกินไป ผู้คนในเวียนนาใช้ภาษาอังกฤษได้ดี แต่ชีวิตคนเมืองค่อนข้างเร่งรีบ ไม่มีใครชิวพอที่จะคุยเล่นกับเรา ดังนั้น การสำรวจเมืองด้วยตัวเองจึงเริ่มต้นที่พาตัวเองออกไปเจอผู้คนและสื่อสารกับเค้าบ้าง ซึ่งที่ที่เราเลือกคือ สำรวจตลาดสดเพื่อหาวัตถุดิบในการทำอาหารให้ตัวเอง ไว้พรุงนี้จะมาเล่าให้ฟังใหม่นะ วันนี้ขอตัวไปทบทวนภาษาเยอรมันก่อน 

กินฮอทด็อกรับลมหนาวที่ Stephansplatz




Comments

Popular posts from this blog

(3) Talad Thai ตลาดไทยในเวียนนา

ในที่สุดก็มีเวลามานั่งเขียนอีกครั้ง หลังจากช็อคกับคอร์สเรียนภาษาเยอรมันหลักสูตรเร่งรัดของที่นี่ (ครูสอนเป็นภาษาเยอรมัน หนังสือเรียนเป็นภาษาเยอรมัน แต่ถ้าสื่อสารกันไม่ได้แล้วครูจะอนุญาตให้พูดภาษาอังกฤษได้) วันนี้เป็นวันสุดท้ายของคอร์สแรก และเริ่มเรียนคอร์สต่อไปวันจันทร์ คราวนี้ดีหน่อยเราจองเวลาเรียนใหม่เป็นช่วงบ่ายสามถึงหกโมงเย็น ไม่ต้องเรียนรอบค่ำแล้ว เย้! แต่สิ่งที่เศร้าคือ เพื่อนที่เรียนด้วยกันมาต้องแยกย้ายกันไปทำภารกิจของตัวเองก่อน แล้วค่อยกลับมาเรียนใหม่ ส่วนเรามีเวลาไม่มากนักเลยเริ่มเรียนก่อนคนอื่น แต่ยังไงซะเราก็ยังติดต่อกันอยู่ และแน่นอนว่าเราจะได้เจอกันอีก อยากรู้มั๊ยว่าทำไมพวกเราถึงมาเรียนภาษาเยอรมันที่นี่! หลายคนคงรู้คำตอบบ้างแล้ว มันเป็นละครชีวิต และมีหลากหลายเรื่องราว เมื่อคืนเราได้คำตอบที่ชัดเจนหลังจากได้โอกาสออกไปดื่มหลังเลิกเรียนกับเพื่อนๆ ในชั้นเรียน (น่าเสียดายที่เพื่อนบางคนถอนใจเลิกเริียนกลางคัน ทำให้วันนี้ขาดสมาชิกไป 2 คน เหลือแค่ 7 คน; จีน 1ญ, ไทย 1ญ, ออสเตรเลีย 1ช, อิตาลี 1ญ 2ช, และแอลเบเนีย 1ช) ให้กับตัวเองในคำถามนั้น "พวกเรามาที่นี่เพื่อหาโอกาสในการทำงาน...

(2) Fresh markets in Vienna! สำรวจตลาดสดในเวียนนา!

ครั้งนี้ เราจะพาเที่ยวตลาดสดในเวียนนา แต่ขอออกตัวก่อนนะว่า ยังไปไม่กี่ที่เลย เนื่องจากช่วงนี้เป็นหน้าหนาว ตลาดสดจึงไม่ค่อยครึกครื้นเท่าไหร่นัก จุดเด่นของตลาดสดที่นี่ (ความเห็นจากคนใกล้ตัว) คือ ราคาถูกกว่าในซุปเปอร์มาเก็ต แต่คุณภาพไม่ต่างกัน และบางอย่างมีความสดใหม่มากกว่าด้วยซ้ำถ้าไปจับจ่ายซื้อของถูกเวลา ซึ่งช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดคือ ช่วงเช้าวันเสาร์ เนื่องจากเกษตรกรจะนำสินค้ามาส่งขายในตลาดในวันดังกล่าว และแน่นอนว่าวันเสาร์เป็นวันที่ตลาดคึกคักที่สุด ความน่าสนใจของตลาดสดในเวียนนาในความเห็นของเราคือ ความหลากหลายของสินค้าตามเชื้อชาติ เนื่องจากเวียนนาเป็นเมืองหลวงที่มีความหลากหลายของเชื้อชาติ อาทิ ตุรกี แอฟริกัน จีน เวียดนาม ญี่ปุ่น และไทย เป็นต้น ชาวตุรกีตั้งรกรากที่นี่มานานนับร้อยปี (ซึ่งเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ยุโรป ขอเวลารวบรวมข้อมูลก่อนนะแล้วค่อยเอามาเล่าให้ฟัง) ส่วนชาวแอฟริกันเข้ามาทำงานและตั้งรกรากในยุกต์บุกเบิกด้านอุตสาหกรรมในยุโรปซึ่งช่วงนั้นออสเตรียมีแรงงานน้อยจึงต้องการแรงงานต่างชาติจำนวนมาก ในส่วนของชาวจีน เวียนดนาม ญี่ปุ่น และไทย นั้น เราเดาจากจำนวนร้านอาหารเอเชียที่มีอยู่ท...

(10) สินค้าอะไรที่หาซื้อง่ายและมีตู้อัตโนมัติบริการเกือบทุกซอกซอยในเวียนนา เฉลย "บุหรี่" นั่นเอง

หลังจากห่างหายกันไปนานแรมปี มาเริ่มต้นบทความแรกของปี 2018 ด้วยบุหรี่กันเถอะ ทำไมต้องเป็นหัวข้อนี้ ก็เพราะตั้งแต่มาที่นี่ครั้งแรก สิ่งที่เหมือนเดิมคือ รสนิยมการสูบบุรี่ของชาวออสเตรียในเวียนนาที่มากี่ครั้งก็คุ้นเคยกับสิ่งนี้ จึงอยากนำมาเล่า จะได้ไม่ตกใจกันเวลามาเที่ยวที่นี่ แต่ก็อาจจะถูกจริตกับสิงห์อมควันบ้านเราก็เป็นได้ (ปล. ผู้เขียนไม่มีเจตนาที่จะส่งเสริม หรือสนับสนุนการสูบบุหรี่แต่อย่างใด) ความประทับใจเกี่ยวกับรสนิยมการสูบบุหรี่ของหนุ่มสาวออสเตรียนั้นเกิดขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกในการเดินทางมาเวียนนา เพราะคนใกล้ตัว (สามีและเพื่อนออสเตรีย) เกือบ 99% สูบบุหรี่ เพราะฉะนั้น เมื่ออยู่ที่นี่ไปซักพัก สิ่งเหล่านี้ก็จะเป็นสิ่งที่คุ้นตาและพบได้ทั่วไป แม้กระทั่งในร้านอาหาร ทั้งนี้ การสูบบุหรี่ ดื่มกาแฟ หรือดื่มไวน์ เบียร์ ล้วนเป็นวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวยุโรป ที่ตกทอดกันมาจนถึงปัจจุบันและแผ่ขยายไปในหลายประเทศ ดังนั้น ใครที่ไม่ชอบกลิ่นบุรี่ก็ต้องสำรวจพื้นที่กันก่อนว่า ร้านอาหาร หรือคาเฟ่ นั้นๆ มีจัดพื้นที่ห้ามสูบบุหรี่หรือไม่ ขอเน้นไปที่ร้านท้องถิ่นนะ เพราะถ้าเป็นร้านที่ให้บริการนักท่องเที่ยว ส่...