บทความนี้ค่อนข้างใช้เวลานานในการรวบรวมข้อมูลแต่เป็นความตั้งใจของผู้เขียนที่ต้องการนำเสนอเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับการจัดการขยะในครัวเรือนของชาวเมืองเวียนนาจนถึงการผลิตไฟฟ้าจากขยะเหล่านั้น โดยมีโรงไฟฟ้า Spittelau หรือ เตาเผาขยะ Spittelau เป็นพระเอก ทำไมน่ะเหรอ ก็เพราะความงามที่บรรจงสร้างสรรค์จากศิลปินเอกอีกคนหนึ่งของเวียนนาที่ชื่อ Friedensreich Hundertwasser จนทำให้โรงไฟฟ้าแห่งนี้กลายเป็นจุดดึงดูดผู้คนและสร้างความกลมกลืนกับสถาปัตยกรรมของเมืองเวียนนาได้อย่างลงตัว โดยไม่มีบรรยากาศของความกังวลต่อมลภาวะจากกระบวนการผลิตไฟฟ้า เนื่องจากผู้คนไว้วางใจในเทคโนโลยีและการจัดการขยะของโรงไฟฟ้าแห่งนี้ อีกทั้งรูปลักษณ์ที่ดูจากภายนอกแล้ว แทบไม่อยากจะเชื่อว่านี่คือ โรงไฟฟ้า ดูเหมือนหอศิลป์ซะมากกว่า เพราะลวดลายและสีสันสดใสทำให้สถานที่แห่งนี้ดูเป็นมิตรต่อทั้งผู้คนที่อาศัยอยู่โดยรอบและที่สัณจรผ่านไปมาในพื้นที่เขต 9 และเนื่องจากตั้งอยู่ติดสถานีรถไฟฟ้าสายหลัก ทำให้สถานีรถไฟฟ้านี้มีชื่อว่า Spittelau ตามชื่อโรงไฟฟ้าไปโดยปริยาย
ทางออกจากสถานีรถไฟฟ้า Spittelau จะเห็นโรงไฟฟ้าแบบใกล้ชิด |
ทางเชื่อมระหว่างสถานีรถไฟฟ้า Spittelau กับสถานีรถไฟฟ้าเส้นชานเมือง |
ในส่วนของระบบการค้าพลังงานไฟฟ้าของออสเตรียนั้น เปิดให้มีการแข่งขันทั้งในฝั่งผู้ผลิตไฟฟ้าและผู้ขายไฟฟ้า โดยมีการกำกับดูแลในส่วนของระบบส่งและศูนย์ควบคุมภายใต้มาตรฐานเดียวกันกับประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป ทำให้ผู้ใช้ไฟฟ้า ผู้ผลิต และผู้ขาย เกิดความเชื่อมั่นในระบบดังกล่าว ทั้งนี้ สามารถค้นหาข้อมูลการลงทุน การให้บริการ และข้อมูลอื่นๆ ได้จากเว็บไซต์ของหน่วยงานกำกับดูแล https://www.e-control.at/web/website
![]() |
ที่มา http://www.statistik.at/web_en/statistics/EnergyEnvironmentInnovationMobility/energy_environment/energy/energy_balances/index.html |
![]() |
ซ้ายมือคือ ถังขยะสำหรับพลาสติก ขวามือคือ ถังขยะสำหรับขยะเปียกหรือขยะทั่วไปที่นำมาใช้ใหม่ไม่ได้ |
![]() |
ซ้ายมือคือ ถังขยะสำหรับขวดแก้ว กลางคือ ถังขยะสำหรับกระป๋อง และขวามือคือ ถังขยะสำหรับกระดาษ |
ทั้งหมดนี้คือ การแยกขยะภายในครัวเรือน ประกอบด้วยถังขยะ 5 ประเภท ได้แก่ พลาสติก แก้ว โลหะ(กระป๋อง) กระดาษ และขยะเปียกหรือขยะทั่วไป เมื่อต้องการทิ้งขยะก็ต้องนำออกไปทิ้ง ณ จุดที่กำหนด ซึ่งจุดทิ้งขยะแต่ละประเภทอาจจะอยู่แยกกัน หรืออยู่จุดเดียวกัน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการของแต่ละเขตพื้นที่
![]() |
ซ้ายสุดคือ จุดรับบริจาคเสื้อผ้าสำหรับคนไร้บ้าน ถัดมาคือจุดรวบรวมขวดแก้ว ตรงกลางคือจุดรวบรวมพลาสติก และขวาสุดคือจุดรวบรวมกระดาษ |
![]() |
ขวาสุดคือ จุดรวบรวมกระดาษ (ถ่ายคนละตำแห่งกับภาพด้านบนแต่เป็นจุดรวบรวมขยะจุดเดียวกัน) |
![]() |
ช่องซ้ายบน (สีเทา) สำหรับขยะทั่วไป หรือขยะอื่นๆ ช่องขวาบน (สีเหลือง) สำหรับพลาสติก ช่องซ้ายล่าง (สีแดง) สำหรับกระดาษ ช่องขวาล่าง (สีน้ำเงิน) สำหรับโลหะ กระป๋อง |
ในส่วนของรถเก็บขยะนั้นมีการแยกเก็บตามจุดรวมขยะแต่ละประเภทขยะจึงไม่ปะปนกัน ขยะที่รีไซเคิลได้จะถูกส่งไปยังโรงรีไซเคิลขยะ ส่วนขยะทั่วไปจะถูกส่งไปเผายังโรงผลิตไฟฟ้า
กรณีของโรงไฟฟ้า Spittelau สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1969-1971 สามารถเผาขยะทั่วไปจากครัวเรือนได้ 250,000 ตันต่อปี โดยสามารถผลิตไฟฟ้าได้ 40 GWh (บริการประชาชนมากกว่า 16,000 ครัวเรือน ต่อปี) ผลิตความร้อนได้ 470 GWh ต่อปี (บริการประชาชนมากกว่า 60,000 ครัวเรือน ต่อปี) ผลิตเหล็กได้ 6,000 ตัน ต่อปี และผลิตเถ้า (ash) และฟิลเตอร์เค้ก (filter cake) ได้ 60,000 ตัน ต่อปี
จนกระทั่งปี ค.ศ. 1987 เกิดอุบัติเหตุไฟไหม้เตาเผาขยะ พื้นที่ส่วนใหญ่ของเตาเผาขยะเสียหาย ทำให้เกิดการปรับปรุงครั้งใหญ่เกิดขึ้น ทั้งในส่วนของเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และอาคารสวยงามด้วยศิลปะจาก Friedensreich Hundertwasser
หลังจากเดินเครื่องเตาเผาขยะได้ 40 ปี ในปี ค.ศ. 2012-2015 จึงมีการปรับปรุงอุปกรณ์ให้มีความทันสมัย ส่งผลให้มีประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้น โดยมีกำลังการผลิตติดตั้ง 400 MW ผลิตไฟฟ้าได้เฉลี่ย 120 GWh ต่อปี (บริการประชาชน 50,000 ครัวเรือน ต่อปี) ผลิตความร้อนได้ 500 GWh ต่อปี อีกทั้งสามารถผลิตความเย็น และมีระบบติดตามมลภาวะแบบ Realtime ให้ประชาชนได้ติดตามอีกด้วย อนึ่ง โรงไฟฟ้าขยะ หรือเตาเผาขยะ แบบเดียวกันนี้ (ภายใต้การดูแลของบริษัทผลิตไฟฟ้า Wein Energy) มีจำนวน 4 แห่งด้วยกัน กระจายอยู่ทั่วเวียนนา
![]() |
กระบวนการผลิตความร้อนและไฟฟ้า รวมถึงการกำจัดของเสียจากการเผาขยะของเตาเผาขยะ Spittelau http://www.wienenergie.at/eportal3/ep/channelView.do?channelId=-49106 |
สำหรับผลงานศิลปะของโรงไฟฟ้า Spittelau เป็นหนึ่งในผลงานของ Friedensreich Hundertwasser จาก 34 ผลงานชิ้นเอก ประกอบด้วย
1)
Hundertwasser-KrawinaHaus Wien 1979-1986
2)
Rosenthal-Fabrik Selb (D) 1980-1982
3) Rupertinum
Salzburg 1980-1987
4) Mierka
Getreidesilo Krems 1982-1983
5) St.
Barbara Kirche Bärnbach 1987-1988
6)
Dorfmuseum Roiten 1987-1988
7)
Textilfabrik Rueff Muntlix 1988
8)
Kindertagesstätte Heddernheim (D) 1988-1995
9) Fernwärme Wien/Spittelau 1988-1997
10)
Autobahnraststätte Bad Fischau 1989-1990
11)
KunstHausWien 1989-1991
12) Village
beim Hundertwasser-KrawinaHaus Wien 1990-1991
13)
"In den Wiesen" Bad Soden (D) 1990-1993
14)
"Wohnen unterm Regenturm" Plochingen am Neckar (D) 1991-1994
15) Countdown 21st Century Monument for TBS Tokyo (J) 1992
16)
Brunnenanlage Zwettl 1992-1994
17)
Pavillon beim DDSG Ponton Wien 1992-1994
18) Quixote Winery Napa Valley (USA) 1992-1999
19)
SpiralflussHandTrinkbrunnen I Linz 1993-1994
20)
Krankenstation (Onkologie) Graz 1993-1994
21) Thermendorf Blumau 1993-1997
22) SpiralflussTrinkbrunnen II Tel Aviv (IL) 1994-1996
23) Kid´s Plaza Osaka (J) 1996-1997
24) Martin
Luther Gymnasium Wittenberg (D) 1997-1999
25) Maishima Incineration Plant Osaka (J) 1997-2000
26) Waldspirale
Darmstadt (D) 1998-2000
27)
Markthalle Altenrhein (CH) 1998-2001
28)
Öffentliche Toilette Kawakawa (NZ) 1999
29)
Hundertwasser Umweltbahnhof Uelzen (D) 1999-2001
30) Maishima Sludge Center Osaka (J) 2000-2004
31) Grüne
Zitadelle Magdeburg (D) 2003-2005
32) Ronald
McDonald Wohnheim Essen (D) 2004-2005
33)
Regenbogenspirale von Valkenburg an der Greul (NL) 2006-2007
34)
Kuchlbauer Turm (D) 2007-2010
ใครสนใจงานศิปะของ Friedensreich Hundertwasser สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.hundertwasserhaus.info/ ตบท้ายด้วยผลงานศิลปะรอบโรงไฟฟ้า Spittelau ^_^
หวังว่าเรื่องราวที่เอามาฝากจะเป็นประโยชน์กับผู้ที่สนใจงานด้านนี้ เนื้อหาอาจจะหนักไปหน่อย ไม่ว่ากันนะ สวัสดี ไว้เจอกันใหม่
Mrs.Envi1980
Comments
Post a Comment